ทำไมต้นทุนโลจิสติกส์พัสดุยังสูง? จุดรั่วไหลที่ต้องระวัง

Last updated: 17 มิ.ย. 2568  |  66 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไมต้นทุนโลจิสติกส์พัสดุยังสูง? จุดรั่วไหลที่ต้องระวัง

ทำไมต้นทุนโลจิสติกส์พัสดุยังสูง? จุดรั่วไหลที่ต้องระวัง


ธุรกิจโลจิสติกส์พัสดุกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในยุคอีคอมเมิร์ซ แต่ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการหลายรายก็ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนโลจิสติกส์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของต้นทุนขนส่ง ค่าคลังสินค้า ค่าบุคลากร และต้นทุนแฝงอื่น ๆ อีกมากมาย

ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกว่า ทำไมต้นทุนโลจิสติกส์พัสดุยังสูง? และผู้ประกอบการควรระวัง "จุดรั่วไหล" ด้านใดบ้างเพื่อควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. ค่าขนส่งปลายทาง (Last Mile Delivery) สูงกว่าที่คิด


"Last Mile Delivery" หรือการจัดส่งในระยะสุดท้ายจนถึงมือลูกค้า เป็นส่วนที่ใช้ต้นทุนสูงที่สุดในระบบโลจิสติกส์พัสดุ เพราะต้องใช้แรงงานจำนวนมาก มีเส้นทางกระจายตัว และมักเกิดความล่าช้าจากสภาพการจราจร ปัญหาความไม่พร้อมของผู้รับ หรือการจัดรอบส่งซ้ำหลายครั้ง

แนวทางแก้ไข

วางแผนเส้นทางจัดส่งให้แม่นยำด้วยระบบ Dynamic Routing
ใช้เทคโนโลยี GPS Tracking เพื่อลดเวลาว่างระหว่างเที่ยวขนส่ง
รวมรอบส่งหรือใช้ระบบ Drop Point และ Smart Locker ลดความซ้ำซ้อนในการจัดส่ง


2. ค่าคลังสินค้าและการบริหารสต็อก


คลังสินค้าเป็นอีกจุดที่ต้นทุนสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการบริหารที่ดี เช่น การเก็บสต็อกเกินความต้องการ การจัดเก็บไม่เป็นระบบ การใช้พื้นที่ไม่คุ้มค่า หรือแม้แต่ปัญหาสินค้าหมดอายุและเสื่อมสภาพ

แนวทางแก้ไข

ลงทุนในระบบ WMS (Warehouse Management System)
ใช้หลักการ Just-in-Time ลดการเก็บสต็อกเกินจำเป็น
วางแผนพื้นที่คลังสินค้าให้เหมาะสมกับปริมาณสินค้าแต่ละประเภท


3. ต้นทุนบุคลากรและความผิดพลาดจากแรงงานคน


การพึ่งพาแรงงานคนในขั้นตอนบรรจุ แพ็คสินค้า และการจัดการคลัง อาจก่อให้เกิดความผิดพลาดในการหยิบสินค้า ส่งผิดออเดอร์ หรือทำงานซ้ำซ้อน ทำให้เกิดต้นทุนแฝงเพิ่มขึ้นตามมา

แนวทางแก้ไข

ใช้ระบบ Automation ในบางขั้นตอน เช่น Conveyor, Pick-to-Light, Barcode Scanner
ฝึกอบรมบุคลากรให้เข้าใจกระบวนการทำงานเพื่อลดข้อผิดพลาด
ตรวจสอบและปรับปรุงขั้นตอนการทำงานเป็นระยะ


4. ต้นทุนจากพัสดุตีกลับ (Return Logistics)


การส่งพัสดุผิดที่, ลูกค้าไม่รับพัสดุ, ที่อยู่ไม่ชัดเจน หรือสินค้าเสียหายระหว่างทาง ล้วนสร้างภาระต้นทุนในการรับคืนสินค้าและการส่งซ้ำ

แนวทางแก้ไข

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลลูกค้าก่อนการส่งทุกครั้ง
ใช้ระบบติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ช่วยลดความผิดพลาด
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม ลดความเสียหายระหว่างขนส่ง


5. ค่าพลังงานและค่าน้ำมันที่ผันผวน


ต้นทุนค่าน้ำมันมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าขนส่งทุกเที่ยว และยังมีความผันผวนสูงตามภาวะเศรษฐกิจโลก

แนวทางแก้ไข

วางแผนเที่ยวรถให้เต็มเที่ยว ลดการวิ่งรถเปล่า
ศึกษาการใช้รถพลังงานทางเลือก เช่น รถไฟฟ้าในระยะสั้น
ทำสัญญาค่าขนส่งระยะยาวกับพันธมิตรเพื่อช่วยล็อกต้นทุนบางส่วน


6. ต้นทุนจากความคาดหวังของลูกค้า


ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการส่งที่เร็วขึ้นทุกปี ธุรกิจต้องเร่งลงทุนในระบบ Fulfillment, คลังสินค้าใกล้เมือง และระบบ IT ทำให้เกิดต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ

แนวทางแก้ไข

วางแผนการลงทุนระบบ Fulfillment ตามปริมาณออเดอร์ที่ชัดเจน
ใช้บริการ Fulfillment Center ที่มีระบบพร้อมแล้ว เพื่อควบคุมต้นทุนช่วงเริ่มต้น
พัฒนาการสื่อสารกับลูกค้าเรื่องระยะเวลาการจัดส่งที่เหมาะสม

สรุป


ต้นทุนโลจิสติกส์พัสดุยังสูง เพราะมีหลากหลายปัจจัยซ้อนทับกัน ทั้งเรื่องของระบบ กระบวนการ แรงงาน ทรัพยากร และความคาดหวังของตลาดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

ธุรกิจที่เข้าใจ "จุดรั่วไหล" เหล่านี้ และค่อย ๆ ปรับระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกขั้นตอน จะสามารถควบคุมต้นทุน สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างความยั่งยืนในระยะยาวได้ดีที่สุด 

ติดต่อเรา เพื่อสั่งซื้อ สอบถาม หรือขอใบเสนอราคา
เบอร์โทร : 080-2956052 (คุณบอย) 080-2951830 (คุณปูเป้)
Line@: ddcexpress

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้