เปิดร้านพัสดุให้รอดในยุคการแข่งขันดุเดือด ต้องคิดอะไรบ้าง

Last updated: 19 มิ.ย. 2568 | 21 จำนวนผู้เข้าชม |

เปิดร้านพัสดุให้รอดในยุคการแข่งขันดุเดือด ต้องคิดอะไรบ้าง?

ในวันที่ใคร ๆ ก็สามารถ “เปิดร้านรับส่งพัสดุ” ได้ง่ายกว่าที่เคย
ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็ก ๆ หน้าบ้าน ร้านขายของชำ หรือแม้แต่ตู้ล็อกเกอร์อัตโนมัติ
คำถามคือ… จะทำยังไงให้ร้านพัสดุของคุณ “อยู่รอด” และ “เติบโต” ได้จริงในระยะยาว?

ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาดู 6 เรื่องสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบก่อนและหลังเปิดร้านพัสดุ เพื่อให้คุณแข่งได้ในตลาดที่ไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป

1. ทำเลดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้พฤติกรรมลูกค้า

ร้านพัสดุยุคก่อนอาจอยู่ที่ไหนก็มีลูกค้า
แต่ทุกวันนี้ “ทำเล” ต้องมาคู่กับ “ความเข้าใจพฤติกรรม”
เช่น:

พื้นที่นั้นมีลูกค้ารายวันหรือแค่ตามฤดูกาล?
ลูกค้าส่งของไปไหนบ่อย?
มีร้านค้าออนไลน์อยู่ใกล้แค่ไหน?
คุณต้องรู้ว่าใครคือลูกค้าหลัก และต้องออกแบบบริการให้ตอบโจทย์เขา ไม่ใช่แค่รอให้เดินมาหา

2. เลือกพันธมิตรขนส่งที่เหมาะสม

การจับมือกับขนส่งหลัก (เช่น Kerry, Flash, J&T, DHL ฯลฯ) เป็นสิ่งจำเป็น
แต่คุณควรเลือกให้สอดคล้องกับฐานลูกค้าของคุณ เช่น:

ถ้าลูกค้าส่งของชิ้นเล็ก ราคาถูก = ขนส่งที่เก็บขั้นต่ำต่ำจะดีกว่า
ถ้าลูกค้าส่งเอกสารราชการ = ขนส่งที่ส่งด่วน-ตรงเวลาแม่นยำจะได้เปรียบ
ถ้าลูกค้าเป็นร้านค้าออนไลน์ = ต้องมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)

3. อย่ามองข้าม “ต้นทุนแฝง” ที่ทำให้ร้านอยู่ไม่รอด

ต้นทุนในร้านพัสดุไม่ได้มีแค่ค่าเช่าและพนักงาน
แต่ยังมีต้นทุนแฝง เช่น:

ค่าบรรจุภัณฑ์ (กล่อง เทป ซอง)
ค่าคอมมิชชั่นที่ถูกหักจากขนส่ง
ค่าระบบจัดการหน้าร้าน
ค่าขนส่งพัสดุเข้าศูนย์หรือฮับเอง
รู้ให้ชัด ควบคุมให้ดี = อยู่ได้ในระยะยาว

4. สร้างจุดขายให้เหนือกว่าคู่แข่ง

ในเมื่อร้านพัสดุเปิดได้ทั่วไป สิ่งที่จะทำให้คุณแตกต่างคือ “บริการ”
ตัวอย่างจุดขายที่ลูกค้าประทับใจ เช่น:

ส่งไวในวันเดียว (ด้วยรอบตัดที่มากกว่าเจ้าอื่น)
มีระบบแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์
มีบริการแพ็คของให้ร้านค้าออนไลน์
พนักงานยิ้มแย้ม บริการดี สื่อสารชัดเจน
อย่าลืมว่า "ความประทับใจ" สำคัญพอ ๆ กับ "ความเร็ว"

5. ทำการตลาดแบบ Hyperlocal

หลายร้านพัสดุเปิดใหม่แล้วลูกค้าไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหน
คุณควรใช้วิธีตลาดแบบ “เจาะชุมชน” เช่น:

แจกใบปลิวหน้าหมู่บ้าน
ยิงแอด Facebook เจาะตำบล/เขตที่คุณเปิด
ทำแคมเปญส่งฟรีวันเปิดร้าน
ร่วมโปรกับร้านค้าชุมชน เช่น ส่งของครบ 100 บาทได้คูปองร้านกาแฟ

6. อย่าหยุดพัฒนาเมื่อร้านเริ่มมีลูกค้า

เมื่อร้านเริ่มมีลูกค้าประจำ อย่าหยุดแค่ “รับส่งพัสดุ”
ให้คิดต่อว่า...

จะเปิดบริการอะไรเสริมได้อีก? (เติมเงิน จ่ายบิล ขายของหน้าร้าน)
จะสร้างสาขาที่ 2 หรือจุดรับย่อยได้ไหม?
จะใช้ระบบอะไรทำให้หลังบ้านจัดการง่ายขึ้น?
ร้านที่โตได้จริง = ร้านที่ “คิดต่อเสมอ”

สรุป: ร้านพัสดุจะอยู่รอด ต้องมีมากกว่าคำว่า “เปิดง่าย”

ตลาดโลจิสติกส์พัสดุกำลังโต และยังมีโอกาสอีกมาก
แต่ในขณะเดียวกัน คู่แข่งก็เพิ่มขึ้นทุกวัน
ร้านไหนที่ “เข้าใจลูกค้า” มี “ระบบที่ดี” และ “บริการที่ใส่ใจ”
จะเป็นร้านที่ลูกค้าเลือกใช้ซ้ำ และอยู่รอดได้ในระยะยาว

ติดต่อเรา เพื่อสั่งซื้อ สอบถาม หรือขอใบเสนอราคา
เบอร์โทร : 080-2956052 (คุณบอย) 080-2951830 (คุณปูเป้)
Line@: ddcexpress

เปิดร้านพัสดุ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ขยายธุรกิจพัสดุจากอำเภอเดียว สู่ระดับจังหวัดทำยังไง

เปิดร้านพัสดุให้รอดในยุคการแข่งขันดุเดือด ต้องคิดอะไรบ้าง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ขยายธุรกิจพัสดุจากอำเภอเดียว สู่ระดับจังหวัดทำยังไง

กลยุทธ์จัดเส้นทางขนส่งให้คุ้มต้นทุน

ระบบยิงบาร์โค้ดในการจัดการพัสดุ สำคัญแค่ไหน?

ขนส่งด่วน: เมื่อพัสดุกลายเป็นเรื่องของนาที