สัญลักษณ์นี้ หมายถึง “วัตถุไวไฟ” (Flammable materials)
หมายถึง สินค้าหรือสารที่สามารถ ติดไฟได้ง่าย จากความร้อน เปลวไฟ หรือแม้แต่ประกายไฟเล็กๆ
ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
1. ภาชนะโลหะ (Metal cans/drums)
- ใช้กับสารไวไฟ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ทินเนอร์
- ทนแรงอัดและไม่ติดไฟง่าย
2. กระป๋องแรงดัน (Aerosol cans)
- สำหรับผลิตภัณฑ์จำพวกสเปรย์ เช่น สเปรย์ฉีดผม, สเปรย์หล่อลื่น
3. ขวดแก้ว/พลาสติกเกรดพิเศษ
- สำหรับแอลกอฮอล์หรือสารเคมีที่ติดไฟง่าย
- ต้องใช้ร่วมกับบรรจุภัณฑ์หุ้มกันกระแทก
4. ถังบรรจุก๊าซ (Gas cylinders)
- สำหรับก๊าซไวไฟ เช่น LPG, NGV
- ต้องมีวาล์วป้องกันการรั่ว และมีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย
5. ภาชนะบรรจุเฉพาะทางที่มีซีลปิดแน่น
- สำหรับเคมีภัณฑ์ไวไฟในปริมาณเล็กน้อย
- มักใช้ในงานวิทยาศาสตร์หรืออุตสาหกรรม
ประโยชน์ของการใช้เครื่องหมายเปลวไฟ
1. แจ้งเตือนผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ช่วยให้ผู้ขนส่ง พนักงานคลังสินค้า และผู้ใช้งานรู้ทันทีว่าสินค้านั้น เป็นวัตถุไวไฟ
- ลดความเสี่ยงจากการจัดเก็บหรือขนส่งผิดวิธี
2. ป้องกันอุบัติเหตุ
- ลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ การระเบิด หรือการลุกติดไฟจากการเก็บหรือขนส่งผิดพลาด
3. ส่งเสริมความปลอดภัยในการจัดเก็บ
- ช่วยให้สามารถ แยกสินค้าไวไฟออกจากสินค้าอื่น และจัดเก็บในพื้นที่ปลอดภัย พร้อมถังดับเพลิง
4. ช่วยในการเลือกวิธีขนส่งที่เหมาะสม
- ผู้ขนส่งสามารถเลือกเส้นทางหรือวิธีจัดส่งที่ปลอดภัยที่สุด เช่น ไม่ใช้รถที่มีอุณหภูมิสูง
5.เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐาน
- การติดเครื่องหมายเปลวไฟเป็นการปฏิบัติตามกฎของ กรมโรงงาน, กรมการขนส่ง, หรือมาตรฐานสากล (GHS/UN)
- ช่วยลดปัญหาทางกฎหมายหากเกิดเหตุไม่คาดคิด
6. ช่วยในการประกันภัย
- เป็นหลักฐานว่าผู้จัดส่งมีการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งอาจช่วยให้เบี้ยประกันต่ำลงหรือคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น
ติดต่อเรา เพื่อสั่งซื้อ สอบถาม หรือขอใบเสนอราคา
เบอร์โทร : 080-2956052 (คุณบอย) 080-2951830 (คุณปูเป้)
Line@: ddcexpress