รับพัสดุแปลก ๆ จากคนไม่รู้จัก ควรทำอย่างไร?

Last updated: 16 ก.ค. 2568  |  4 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รับพัสดุแปลก ๆ จากคนไม่รู้จัก ควรทำอย่างไร?

รับพัสดุแปลก ๆ จากคนไม่รู้จัก ควรทำอย่างไร?


เมื่อความเคยชินกลายเป็นช่องทางของภัยเงียบ

ในยุคที่การรับส่งพัสดุเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน หลายคนอาจไม่ทันระวังว่า “การรับพัสดุจากคนแปลกหน้า” หรือ “ของที่ไม่ได้สั่ง” อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัย ทรัพย์สิน และกฎหมายโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง


1. ไม่แน่ใจ อย่ารีบเซ็นรับ


หากพัสดุส่งมาถึง แต่คุณไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ส่ง หรือไม่เคยสั่งของใด ๆ มาก่อน ควรสอบถามพนักงานขนส่งให้ชัดเจน ตรวจสอบชื่อผู้ส่ง เบอร์ติดต่อ และบริษัทขนส่งก่อนตัดสินใจรับ


2. ห้ามเปิดกล่องทันที


หากเผลอรับมาแล้วแต่ไม่ทราบว่าข้างในคืออะไร อย่าเพิ่งแกะกล่อง หากพัสดุดูผิดปกติ เช่น กล่องไม่มีชื่อผู้ส่ง มีกลิ่นหรือรูปร่างแปลก ควรติดต่อเจ้าหน้าที่ทันที


3. ตรวจสอบประวัติคำสั่งซื้อย้อนหลัง


ย้อนดูรายการสั่งซื้อในแอปช้อปปิ้งหรือช่องทางที่เคยใช้ อาจเป็นพัสดุจากร้านค้าเดิมแต่ใช้ชื่อผู้ส่งคนละชื่อ หากหาไม่เจอให้ตรวจสอบเลขพัสดุกับบริษัทขนส่ง


4. อย่ารับพัสดุที่มีการเก็บเงินปลายทางโดยไม่แน่ใจ


มิจฉาชีพบางรายใช้วิธีส่งสินค้าราคาต่ำพร้อมเก็บเงินปลายทาง โดยอาศัยความเข้าใจผิดของผู้รับ หากไม่แน่ใจว่าเป็นของตนเอง อย่ารับและอย่าชำระเงิน


5. หลีกเลี่ยงการรับของแทนคนอื่น


หากมีพัสดุที่ระบุชื่อคนอื่น หรือคนที่คุณไม่รู้จักส่งมาถึงบ้าน อย่ารับแทนเพียงเพราะเกรงใจ เพราะหากภายในมีสิ่งผิดกฎหมาย ผู้รับแทนอาจมีความเสี่ยงทางกฎหมาย


6. ถ่ายภาพหรือวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน 


หากตัดสินใจรับพัสดุ ควรถ่ายภาพหรือวิดีโอไว้ขณะเปิดกล่อง เพื่อเป็นหลักฐานหากเกิดข้อพิพาทในภายหลัง โดยเฉพาะเมื่อไม่แน่ใจเกี่ยวกับที่มาของพัสดุ


7. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านพัสดุ


บางกรณี พัสดุที่ส่งมาอาจมีจุดประสงค์เพื่อดักเก็บข้อมูล เช่น แบบฟอร์มหลอกลวงหรือซองที่ขอให้กรอกข้อมูลส่วนตัว อย่ากรอกหรือส่งคืนโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด


8. ใช้ช่องทางตรวจสอบจากบริษัทขนส่ง


บริษัทขนส่งส่วนใหญ่มักมีบริการสอบถามสถานะพัสดุผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน หากสงสัยว่าเป็นพัสดุของตนเองหรือไม่ สามารถใช้เลขพัสดุเพื่อตรวจสอบได้ทันที


9. ปฏิเสธการรับพัสดุคือสิทธิของผู้รับ


คุณมีสิทธิ์ไม่เซ็นรับพัสดุหากไม่มั่นใจ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องรับของด้วยความเกรงใจ เพราะความปลอดภัยควรมาก่อน


10. สังเกตพฤติกรรมพนักงานขนส่ง


หากพนักงานเร่งให้เซ็นรับ หรือไม่สามารถอธิบายข้อมูลพัสดุได้ชัดเจน อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ควรระวัง


11. ปฏิบัติตามขั้นตอนหากได้รับของผิดหรือหลอกลวง


หากเผลอรับของมาแล้วพบว่าไม่ใช่ของตนเอง หรือมีการหลอกลวง ควรติดต่อบริษัทขนส่ง แจ้งความ หรือติดต่อองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อดำเนินการต่อ


12. หลีกเลี่ยงการเปิดกล่องในพื้นที่สาธารณะ


หากต้องเปิดกล่องเพื่อดูว่าเป็นอะไร ควรทำในพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลหรือสร้างความแตกตื่น


13. ระวังของต้องห้ามหรือของผิดกฎหมาย


ในบางกรณี พัสดุอาจบรรจุสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธ หรือของต้องห้ามอื่น ๆ การรับไว้โดยไม่รู้ อาจกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่ตั้งใจ


14. อย่าตอบกลับข้อความหรือโทรศัพท์แปลก ๆ ที่มากับพัสดุ


หากภายในกล่องมีเบอร์โทร หรือเอกสารให้ติดต่อกลับโดยเร่งด่วน อย่าเพิ่งรีบติดต่อกลับ เพราะอาจเป็นส่วนหนึ่งของการหลอกลวง


15. แนะนำให้บันทึกเบอร์บริษัทขนส่งไว้ในโทรศัพท์


หากได้รับพัสดุที่น่าสงสัย จะสามารถติดต่อกลับได้ทันทีโดยไม่ต้องค้นหาในภายหลัง


16. ไม่มั่นใจ ควรแจ้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น


หากมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย หรือพัสดุดูผิดปกติ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทันที เพื่อให้ตรวจสอบตามขั้นตอนที่เหมาะสม


สรุป


พัสดุแปลก ๆ ที่ส่งมาจากคนไม่รู้จักอาจเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีรับมือของเรา อย่ารับโดยไม่ตรวจสอบ อย่าเปิดโดยไม่รู้ที่มา และอย่าปล่อยผ่านหากรู้สึกผิดสังเกต เพราะการป้องกันตั้งแต่ต้นย่อมดีกว่าการแก้ไขภายหลัง

หากคุณไม่แน่ใจ อย่าลังเลที่จะปฏิเสธการรับ เพราะความปลอดภัยของคุณและครอบครัวสำคัญที่สุด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้