Last updated: 25 ก.ย. 2568 | 67 จำนวนผู้เข้าชม |
DDC EXPRESS vs ร้านพัสดุทั่วไป: แตกต่างกันอย่างไร?
ปัจจุบันธุรกิจร้านพัสดุถือว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะพฤติกรรมการซื้อขายออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกปี แต่สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน อาจมีคำถามว่า ควรเลือกลงทุนแฟรนไชส์อย่าง DDC EXPRESS หรือเปิดร้านพัสดุทั่วไปเองแบบอิสระ แบบไหนดีกว่ากัน? มาดูกันครับ
1. การลงทุนเริ่มต้น
DDC EXPRESS: มีแพ็กเกจลงทุนที่ชัดเจน ลงทุนครั้งเดียวจบ ไม่มีรายเดือน และไม่บังคับยอดขาย
ร้านพัสดุทั่วไป: ผู้ลงทุนต้องจัดการเองทั้งหมด ตั้งแต่การหาขนส่งพันธมิตร ระบบหลังบ้าน ไปจนถึงอุปกรณ์ ซึ่งบางครั้งต้นทุนอาจบานปลาย
2. พันธมิตรขนส่ง
DDC EXPRESS: รองรับขนส่งหลัก 5 รายใหญ่ ได้แก่ Flash, Kerry, DHL, Shopee (SPX), และไปรษณีย์ไทย
ร้านพัสดุทั่วไป: ต้องเจรจาเองกับแต่ละบริษัท บางครั้งอาจได้ขนส่งไม่ครบ หรือค่าบริการสูงกว่า
3. ช่องทางรายได้
DDC EXPRESS: นอกจากรายได้จากการส่งพัสดุ ยังมีรายได้จากการขายกล่องและอุปกรณ์แพ็กของ, รับต่อ พ.ร.บ./ประกันภัยกว่า 30 บริษัท, บริการเสริมอย่างจ่ายบิล เติมเงิน
ร้านพัสดุทั่วไป: ส่วนใหญ่พึ่งพารายได้จากการส่งพัสดุเพียงอย่างเดียว
4. ระบบสนับสนุนและการบริหาร
DDC EXPRESS: มีระบบหลังบ้านที่ทันสมัย พร้อมทีมซัพพอร์ตช่วยเหลือ แฟรนไชส์ซีไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
ร้านพัสดุทั่วไป: ต้องหาวิธีจัดการเองทั้งหมด ตั้งแต่การออกบิล การติดตามงาน ไปจนถึงการตลาด
5. โอกาสเติบโต
DDC EXPRESS: แฟรนไชส์มีชื่อเสียง ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจ และสามารถต่อยอดเป็นร้านศูนย์กลางในชุมชนได้
ร้านพัสดุทั่วไป: แม้จะมีอิสระสูง แต่ต้องสร้างฐานลูกค้าและความน่าเชื่อถือเอง ซึ่งใช้เวลานานกว่า
สรุป
หากคุณต้องการลงทุนธุรกิจที่มีระบบพร้อม มีพันธมิตรขนส่งครบ มีรายได้หลายช่องทาง และมีทีมสนับสนุน การเลือกแฟรนไชส์ DDC EXPRESS ถือเป็นทางเลือกที่มั่นคงและคุ้มค่ากว่า ขณะที่การเปิดร้านพัสดุทั่วไปแม้จะอิสระ แต่ต้องใช้ความพยายามและเงินลงทุนเสริมไม่น้อยในการสร้างระบบเอง
สนใจลงทุนแฟรนไชส์ DDC EXPRESS
เว็บไซต์: www.dd-general.com
9 ต.ค. 2568
9 ต.ค. 2568